ประเภทของหอย

การดูลักษณะของเปลือกหอยว่ามีวงเกลียวเวียนขวาหรือเวียนซ้าย มีหลักในการดูโดยวิธีหงายให้เห็นช่องเปลือกและหันจุดยอดของเปลือกหอยชี้ออก นอกตัวผู้ถือ หากช่องเปลือกอยู่ทางด้านขวามือผู้ถือ เปลือกหอยนั้นเวียนขวา ถ้าอยู่ทางด้านซ้ายมือเปลือกหอยนั้นเวียนซ้าย
ผิวด้านนอกของเปลือกหอยอาจเรียบเป็นมันหรือเป็นลายมิติ เช่น มีหนาม, ตุ่มสันแหลม, ร่อง หรือสันป้าน ซึ่งอาจอยู่ในแนวแกน หรือในแนวเวียนก้นหอย ช่องเปลือกอาจมีรูปกลม รีหรือแคบยาวตามแต่ชนิดของหอย มีขอบด้านนอกช่องเปลือก และขอบด้านในช่องเปลือก ซึ่งเชื่อมต่อกับแกนเปลือก หอยส่วนมากมีฝาปิด ลักษณะ เป็นแผ่น สำหรับปิดช่องเปลือก ฝาปิดนี้นอกจากจะช่วยป้องกันอันตรายจากศัตรูหรือสิ่งสกปรกจากภายนอกแล้วยัง ช่วยป้องกันไม่ให้ความชื้นระเหยออกจากตัวมากเกินไป ในหอยบางชนิดมีช่องแกนเปลือก ซึ่งอยู่ระหว่างวงเกลียวสุดท้ายกับขอบด้านในของช่องเปลือกจากจุดยอดของ เปลือกลงมาถึงวงเกลียวทุกวงเกลียวเว้นวงเกลียวสุดท้าย เรียกว่า ก้นหอย ช่วงนี้มีความยาวแตกต่างกันแล้วแต่ชนิดของหอย
การวัดขนาดของเปลือกหอยเปลือกเดี่ยวนิยมวัดจากจุดยอดมาถึงปลายสุดของวง เกลียวสุดท้าย ถือเป็นความยาวของเปลือกช่วงกว้างที่สุดของวงเกลียวถือเป็นความกว้างของ เปลือก โดยใช้หน่วยเป็น
มิลลิเมตร หอย เปลือกเดี่ยวโดยทั่วไปอาจมีขนาดยาวตั้งแต่ 2-3 มิลลิเมตร ไปจนถึง 500 มิลลิเมตร กว้างตั้งแต่ 2 มิลลิเมตรไปจนถึง 300มิลลิเมตร ในหอยสังข์ยักษ์ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นหอยเปลือกเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
2.หอยเปลือกคู่ มี เปลือกเป็นกาบ 2 กาบประกบเข้ากันและเปิดปิดได้คล้ายบานพับ เปลือกทั้ง 2 ข้าง อาจมีรูปร่างเหมือนกันหรือคล้ายคลึงกัน เปลือกอาจมีรูปกลม, รี, สามเหลี่ยม หรือรูปอื่น ๆ ก็ได้
หอยจะสร้างเปลือกบริเวณขั้วเปลือก ขึ้นก่อนแล้วสร้างเปลือกเป็นวงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เปลือกทั้ง 2 ข้างยึดติดกันด้วยเอ็นยึด ซึ่งเป็นสารจำพวกโปรตีน บริเวณที่ยึดติดกันเรียก บานพับ ส่วนใหญ่บริเวณนี้มักมีแง่สบเปลือก ซึ่งมีจำนวนและขนาดแตกต่างกันไปแล้วแต่วงศ์ของหอย เช่น หอยแครงมี แง่สบเปลือกขนาดเล็กไล่เลี่ยกันเรียงเป็นแถว,หอยกระปุกมีแง่สบเปลือกแง่กลาง สั้นกว่าแง่สบเปลือกแง่ข้าง, หอยปิดและเปิดเปลือกโดยอาศัยกล้ามเนื้อยึดเปลือกซึ่งอาจมีกล้ามเนื้อมัดเดียว เช่น หอยพัด หรือ หอยเชลล์ หรือมีกล้ามเนื้อ 2 มัด เช่น หอยแครง, หอยลาย รอยกล้ามเนื้อยึดเปลือก เหล่านี้ได้เห็นได้ทางด้านในของเปลือกเมื่อกล้ามเนื้อหลุดไปแล้ว นอกจากนี้ ยังเห็นรอยอันเกิดจากแนวของแผ่นเนื้อที่ยึดติดกับเปลือกอันเป็นแนวเกือบขนาน กับขอบเปลือก เรียก รอยแนวแผ่นเนื้อ ผิวด้านนอกของเปลือกหอยกาบคู่บางพวกเรียบเป็นมัน บางพวกมีหนาม, สัน และร่อง ซึ่งมีลักษณะเป็นแนวรัศมีหรือแนวขนานกับขอบเปลือก บริเวณด้านข้างขั้วเปลือกของหอยบางพวก เช่น หอยพัด มีแผ่นลักษณะเป็นปีกแผ่ออกไป
เมื่อดูหอยเปลือกคู่ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ด้านที่เป็นช่องปากถือเป็นด้านหน้า ส่วนด้านที่มีทางน้ำเข้า-ออกและรูก้นถือเป็นด้านท้าย หากดูเปลือกหอยทางด้านในเพียงอย่างเดียว ด้านที่มีบานพับและขั้วเปลือกถือเป็นด้านบน ส่วนด้านที่อยู่ตรงข้ามซึ่งเป็นขอบเปลือกถือเป็นด้านล่าง สำหรับการดูด้านหน้ากับด้านท้ายให้สังเกตรอยเว้าแนวแผ่นเนื้อหากอยู่ด้านไหนให้ถือว่าเป็นด้านท้าย ส่วนด้านตรงข้ามถือเป็นด้านหน้า นอกจากนี้ ยังอาจสังเกตได้จากจะงอยเปลือกถ้าชี้ไปทางด้านไหนให้ถือว่าเป็นด้านหน้า ทั้งนี้ ยกเว้นหอยบางชนิด เช่น หอยเสียบ ที่จะงอยเปลือกชี้กลับตรงกันข้าม เป็นต้น
ส่วนการดูเปลือกหอยว่าเป็นกาบซ้ายหรือกาบขวานั้นให้ถือเปลือกหอยโดยเอาขั้ว เปลือกไว้ด้านบน หันปลายด้านชี้ออกนอกตัวผู้ถือ เปลือกที่อยู่ทางขวามือเป็นกาบขวา เปลือกที่อยู่ทางซ้ายมือเป็นกาบซ้าย การวัดความยาวของเปลือกให้วัดระหว่างปลายด้านหน้าถึงด้านท้ายสุด ส่วนความสูงนั้นวัดจากด้านบนสุดของขั้วเปลือกถึงขอบเปลือกด้านล่างสุด
ระยะระหว่างความโค้งของผิวนอกสุดของเปลือกทั้ง 2 กาบ คือ ความหนา หอยกาบคู่ที่โตเต็มที่โดยทั่วไปมีขนาดความยาวของเปลือกไม่เกิน 10 เซนติเมตร ยกเว้นบางชนิดที่มีขนาดใหญ่มาก เช่น หอยมือเสือ อาจวัดความยาวได้มากกว่า 1 เมตร ซึ่งถือเป็นหอยเปลือกคู่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

หอยจะสร้างเปลือกบริเวณขั้วเปลือก ขึ้นก่อนแล้วสร้างเปลือกเป็นวงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เปลือกทั้ง 2 ข้างยึดติดกันด้วยเอ็นยึด ซึ่งเป็นสารจำพวกโปรตีน บริเวณที่ยึดติดกันเรียก บานพับ ส่วนใหญ่บริเวณนี้มักมีแง่สบเปลือก ซึ่งมีจำนวนและขนาดแตกต่างกันไปแล้วแต่วงศ์ของหอย เช่น หอยแครงมี แง่สบเปลือกขนาดเล็กไล่เลี่ยกันเรียงเป็นแถว,หอยกระปุกมีแง่สบเปลือกแง่กลาง สั้นกว่าแง่สบเปลือกแง่ข้าง, หอยปิดและเปิดเปลือกโดยอาศัยกล้ามเนื้อยึดเปลือกซึ่งอาจมีกล้ามเนื้อมัดเดียว เช่น หอยพัด หรือ หอยเชลล์ หรือมีกล้ามเนื้อ 2 มัด เช่น หอยแครง, หอยลาย รอยกล้ามเนื้อยึดเปลือก เหล่านี้ได้เห็นได้ทางด้านในของเปลือกเมื่อกล้ามเนื้อหลุดไปแล้ว นอกจากนี้ ยังเห็นรอยอันเกิดจากแนวของแผ่นเนื้อที่ยึดติดกับเปลือกอันเป็นแนวเกือบขนาน กับขอบเปลือก เรียก รอยแนวแผ่นเนื้อ ผิวด้านนอกของเปลือกหอยกาบคู่บางพวกเรียบเป็นมัน บางพวกมีหนาม, สัน และร่อง ซึ่งมีลักษณะเป็นแนวรัศมีหรือแนวขนานกับขอบเปลือก บริเวณด้านข้างขั้วเปลือกของหอยบางพวก เช่น หอยพัด มีแผ่นลักษณะเป็นปีกแผ่ออกไป
เมื่อดูหอยเปลือกคู่ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ด้านที่เป็นช่องปากถือเป็นด้านหน้า ส่วนด้านที่มีทางน้ำเข้า-ออกและรูก้นถือเป็นด้านท้าย หากดูเปลือกหอยทางด้านในเพียงอย่างเดียว ด้านที่มีบานพับและขั้วเปลือกถือเป็นด้านบน ส่วนด้านที่อยู่ตรงข้ามซึ่งเป็นขอบเปลือกถือเป็นด้านล่าง สำหรับการดูด้านหน้ากับด้านท้ายให้สังเกตรอยเว้าแนวแผ่นเนื้อหากอยู่ด้านไหนให้ถือว่าเป็นด้านท้าย ส่วนด้านตรงข้ามถือเป็นด้านหน้า นอกจากนี้ ยังอาจสังเกตได้จากจะงอยเปลือกถ้าชี้ไปทางด้านไหนให้ถือว่าเป็นด้านหน้า ทั้งนี้ ยกเว้นหอยบางชนิด เช่น หอยเสียบ ที่จะงอยเปลือกชี้กลับตรงกันข้าม เป็นต้น
ส่วนการดูเปลือกหอยว่าเป็นกาบซ้ายหรือกาบขวานั้นให้ถือเปลือกหอยโดยเอาขั้ว เปลือกไว้ด้านบน หันปลายด้านชี้ออกนอกตัวผู้ถือ เปลือกที่อยู่ทางขวามือเป็นกาบขวา เปลือกที่อยู่ทางซ้ายมือเป็นกาบซ้าย การวัดความยาวของเปลือกให้วัดระหว่างปลายด้านหน้าถึงด้านท้ายสุด ส่วนความสูงนั้นวัดจากด้านบนสุดของขั้วเปลือกถึงขอบเปลือกด้านล่างสุด
ระยะระหว่างความโค้งของผิวนอกสุดของเปลือกทั้ง 2 กาบ คือ ความหนา หอยกาบคู่ที่โตเต็มที่โดยทั่วไปมีขนาดความยาวของเปลือกไม่เกิน 10 เซนติเมตร ยกเว้นบางชนิดที่มีขนาดใหญ่มาก เช่น หอยมือเสือ อาจวัดความยาวได้มากกว่า 1 เมตร ซึ่งถือเป็นหอยเปลือกคู่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น